มีหนี้บัตรเครดิต ทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน จริงหรือ?

ประตูสู่การเป็นเจ้าของบ้าน: หนี้บัตรไม่ใช่อุปสรรคถ้ารู้จักเล่น!
หลายคนมีความฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ก็มีกังวลว่า หนี้บัตรเครดิตที่ยังค้างอยู่จะทำให้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน จริงหรือไม่? มาไขข้อข้องใจกัน ว่าหนี้บัตรเครดิตมีผลต่อการกู้ซื้อบ้านอย่างไร

1. ภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR): ธนาคารจะพิจารณาภาระหนี้ทั้งหมดของคุณ รวมถึงหนี้บัตรเครดิต เทียบกับรายได้ หาก DSR สูงเกินเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด อาจทำให้กู้ไม่ผ่าน หรือได้วงเงินกู้น้อยลง แต่ถ้าคุณมีระเบียบการเงินที่ดี จ่ายหนี้ตรงเวลา ธนาคารก็ยินดีที่จะจับมือคุณเดินทางไปถึงฝั่งฝัน
2. ประวัติการชำระหนี้: หากมีประวัติการชำระหนี้บัตรเครดิตไม่ตรงเวลา หรือมียอดค้างชำระ จะส่งผลเสียต่อเครดิตบูโร และทำให้ธนาคารมองว่าคุณมีความเสี่ยงสูง นั่นคือธงแดงสำหรับธนาคาร ดังนั้น การปรับปรุงวินัยการเงินของคุณคือกุญแจสำคัญ!

ยกตัวอย่างจากผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิต

• นาย A: รายได้ 50,000 บาท/เดือน มีหนี้บัตรเครดิต 20,000 บาท ชำระตรงเวลาทุกเดือน มีโอกาสกู้ซื้อบ้านผ่านสูง เพราะ DSR ยังอยู่ในระดับที่ธนาคารรับได้ และมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี
• นาย B: รายได้ 30,000 บาท/เดือน มีหนี้บัตรเครดิต 30,000 บาท เคยชำระล่าช้า มีโอกาสกู้ซื้อบ้านผ่านยาก เพราะ DSR สูงเกินเกณฑ์ และมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี

- นาย A: รายได้ดีและจัดการหนี้บัตรเครดิตได้อย่างเป็นระเบียบ ซื้อบ้าน ไม่ใช่เรื่องยาก!
- นาย B: รายได้ไม่มาก หนี้บัตรสูง และชำระล่าช้า การซื้อบ้านอาจจะต้องรอไปก่อน จนกว่าจะปรับปรุงการเงินให้ดีขึ้น!

ข้อแนะนำเพื่อประตูบ้านที่ปลายทาง

1. เคลียร์หนี้บัตรเครดิต: วางแผนเงินให้รัดกุม ลดหนี้ให้ต่ำที่สุด เพื่อช่วยลด DSR และเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
2. รักษาประวัติการชำระหนี้ที่ดี: การชำระหนี้ที่ตรงเวลาไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อเครดิตบูโรเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณต่อธนาคาร
3. ปรึกษาธนาคาร: ไม่มีใครรู้ดีกว่าผู้เชี่ยวชาญ! ก่อนยื่นกู้ สอบถามกับธนาคารเพื่อเตรียมเอกสารและวางแผนการเงินให้พร้อม

หนี้บัตรเครดิตอาจดูเป็นอุปสรรค แต่ถ้ามองให้ลึกและแก้ไขอย่างถูกวิธี มันก็เป็นแค่ประตูที่คุณต้องผ่านเพื่อเข้าสู่บ้านในฝันของคุณ!

หวังว่าบล็อกนี้จะมีประโยชน์นะคะ ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการคำแนะนำ อย่าลืมติดต่อ Proview Living นะคะ! 😊